1. จุดกำเนิด
ไม่มีบันทึกแน่ชัดว่ากาแฟกำเนิดขึ้นเมื่อใด แต่โลกรู้จักกาแฟครั้งแรกราวคริสต์ศตวรรษที่ 15 ในเยเมนแถบอาระเบีย และทางตะวันออกเฉียงเหนือของเอธิโอเปีย ชาวอาหรับคือมนุษย์กลุ่มแรกที่บริโภค จากนั้นกาแฟได้แพร่ขยายไปตามประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก จนได้รับความนิยมเช่นในปัจจุบัน
ไม่มีบันทึกแน่ชัดว่ากาแฟกำเนิดขึ้นเมื่อใด แต่โลกรู้จักกาแฟครั้งแรกราวคริสต์ศตวรรษที่ 15 ในเยเมนแถบอาระเบีย และทางตะวันออกเฉียงเหนือของเอธิโอเปีย ชาวอาหรับคือมนุษย์กลุ่มแรกที่บริโภค จากนั้นกาแฟได้แพร่ขยายไปตามประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก จนได้รับความนิยมเช่นในปัจจุบัน
2. สายพันธุ์
ทั่วโลกมีกาแฟอยู่มากกว่า 6,000 สายพันธ์ แต่ที่นิยมมากที่สุดเอ่ยชื่อไปต้องคุ้นหูของทุกคนแน่นอน นั่นคือ อราบิก้า (Arabica) สายพันธุ์กาแฟดั้งเดิม รสชาติดี ทำให้ราคาแพง และ โรบัสต้า (Robusta) มีปริมาณกาเฟอีนสูง ทนทานต่อสภาพแวดล้อมได้ดี ทำให้ปลูกง่ายกว่า
ทั่วโลกมีกาแฟอยู่มากกว่า 6,000 สายพันธ์ แต่ที่นิยมมากที่สุดเอ่ยชื่อไปต้องคุ้นหูของทุกคนแน่นอน นั่นคือ อราบิก้า (Arabica) สายพันธุ์กาแฟดั้งเดิม รสชาติดี ทำให้ราคาแพง และ โรบัสต้า (Robusta) มีปริมาณกาเฟอีนสูง ทนทานต่อสภาพแวดล้อมได้ดี ทำให้ปลูกง่ายกว่า
3. การบ่มเมล็ด
คือขั้นตอนการเพิ่มคุณภาพให้กับเมล็ดกาแฟ เพื่อให้ได้รสชาติที่ดี กลมกล่อมมากขึ้น และลดความเปรี้ยวลงได้ด้วย ซึ่งผู้ผลิตกาแฟส่วนใหญ่มักบ่มเมล็ดกาแฟไว้นานนับปีเลยทีเดียว
คือขั้นตอนการเพิ่มคุณภาพให้กับเมล็ดกาแฟ เพื่อให้ได้รสชาติที่ดี กลมกล่อมมากขึ้น และลดความเปรี้ยวลงได้ด้วย ซึ่งผู้ผลิตกาแฟส่วนใหญ่มักบ่มเมล็ดกาแฟไว้นานนับปีเลยทีเดียว
4. การคั่วเมล็ด
เป็นขั้นตอนสำคัญในการผลิตกาแฟ เพราะระดับของการคั่ว จะบ่งบอกถึงรสชาติของกาแฟได้เป็นอย่างดี การคั่วแบบอ่อนๆ จะทำให้เมล็ดกาแฟเก็บรสชาติแท้ดั้งเดิมไว้ได้ดีที่สุด ซึ่งรสชาติดั้งเดิมจะบ่งบอกเอกลักษณ์เฉพาะตัวของสถานที่ปลูก สภาพดิน และภูมิอากาศด้วย
เป็นขั้นตอนสำคัญในการผลิตกาแฟ เพราะระดับของการคั่ว จะบ่งบอกถึงรสชาติของกาแฟได้เป็นอย่างดี การคั่วแบบอ่อนๆ จะทำให้เมล็ดกาแฟเก็บรสชาติแท้ดั้งเดิมไว้ได้ดีที่สุด ซึ่งรสชาติดั้งเดิมจะบ่งบอกเอกลักษณ์เฉพาะตัวของสถานที่ปลูก สภาพดิน และภูมิอากาศด้วย
5. การบด
หลังจากได้เมล็ดกาแฟคั่วแล้ว ต้องนำมาผ่านการบด โดยการบดเองก็ส่งต่อรสชาติของกาแฟเช่นกัน การบดเมล็ดกาแฟยิ่งละเอียดมากเท่าไหร่ รสชาติของกาแฟที่ได้ออกมายิ่งเข้มข้นมากขึ้นเท่านั้น แต่ทั้งนี้ยังขึ้นอยู่กับเครื่องบดและเครื่องชงกาแฟแต่ละชนิดที่จะใช้กรรมวิธีต่างกันอีกด้วย
หลังจากได้เมล็ดกาแฟคั่วแล้ว ต้องนำมาผ่านการบด โดยการบดเองก็ส่งต่อรสชาติของกาแฟเช่นกัน การบดเมล็ดกาแฟยิ่งละเอียดมากเท่าไหร่ รสชาติของกาแฟที่ได้ออกมายิ่งเข้มข้นมากขึ้นเท่านั้น แต่ทั้งนี้ยังขึ้นอยู่กับเครื่องบดและเครื่องชงกาแฟแต่ละชนิดที่จะใช้กรรมวิธีต่างกันอีกด้วย
6. การชง
ถือเป็นขั้นตอนสุดท้ายก่อนที่กาแฟแสนอร่อยจะอยู่ในมือของทุกคน ซึ่งเทคนิคการชงมีมากมายหลากหลายสูตร แต่สองวิธีที่เป็นที่รู้จักและนิยมในบ้านเรามี 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ
การชงแบบหยด (หรือแบบกรอง) ใช้การหยดน้ำร้อนผ่านตัวกาแฟ และผ่านกรองอีกชั้นก่อนลงสู่แก้ว ซึ่งความเข้มข้นขึ้นอยู่กับสัดส่วนระหว่างน้ำกับกาแฟ
การใช้ความดันไอน้ำ เป็นการใช้น้ำร้อนและแรงดันในการชง นิยมใช้ในการชงเอสเพรสโซ ซึ่งมีความเข้มข้นมาก เหมาะกับการดื่มเป็นช็อต หรือนำไปชงผสมเป็นกาแฟชนิดต่างๆ
ถือเป็นขั้นตอนสุดท้ายก่อนที่กาแฟแสนอร่อยจะอยู่ในมือของทุกคน ซึ่งเทคนิคการชงมีมากมายหลากหลายสูตร แต่สองวิธีที่เป็นที่รู้จักและนิยมในบ้านเรามี 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ
การชงแบบหยด (หรือแบบกรอง) ใช้การหยดน้ำร้อนผ่านตัวกาแฟ และผ่านกรองอีกชั้นก่อนลงสู่แก้ว ซึ่งความเข้มข้นขึ้นอยู่กับสัดส่วนระหว่างน้ำกับกาแฟ
การใช้ความดันไอน้ำ เป็นการใช้น้ำร้อนและแรงดันในการชง นิยมใช้ในการชงเอสเพรสโซ ซึ่งมีความเข้มข้นมาก เหมาะกับการดื่มเป็นช็อต หรือนำไปชงผสมเป็นกาแฟชนิดต่างๆ
ในปัจจุบันการดื่มกาแฟไม่ได้นิยมดื่มกาแฟดำเหมือนเมื่อก่อน แต่คนจะหันมาดื่มกาแฟที่เพิ่มส่วนผสมอื่นๆ เข้าไป อย่างเช่น นม น้ำผึ้ง หรือคาราเมล แต่ที่นิยมมากที่สุดก็คือ กาแฟที่มีการเพิ่มนมเข้าไป นมจึงเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ต้องให้ความสำคัญเช่นกัน นมที่ดีจะต้องไม่กลบกลิ่นและรสชาติของกาแฟ ยังคงความเป็นกาแฟอยู่เหมือนเดิมแต่สิ่งที่เพิ่มเติมขึ้นมาคือความอร่อยข้มข้น อย่างผลิตภัณฑ์ตราฟอลคอน โพรเฟสชัลแนล มีรสเค็มติดปลายลิ้นเล็กน้อยที่ช่วยผสมผสานให้กาแฟสดอร่อยกลมกล่อม เพื่อช่วยชูรสชาติความอร่อยและกลิ่นหอมของกาแฟสดให้โดดเด่นมากขึ้น
มาถึงตรงนี้ทุกคนคงจะรู้จักกาแฟกันดีมากขึ้นแล้ว เมื่อรู้ที่มาที่ไปแบบนี้ ต่อไปการดื่มกาแฟของทุกคนจะต้องอร่อยขึ้นมากแน่นอน