ในการเก็บรักษาอาหารกระป๋องนั้น ควรจะวางเก็บไว้ในที่แห้ง ไม่ร้อน เลี่ยงแสงแดด และเก็บไว้ในที่ๆ อากาศถ่ายเทสะดวก ตัวกระป๋องไม่ควรมีรอยตำหนิ รอยสนิม หากมีลักษณะบวม พอง หรือยุบ ไม่ควรนำมาประกอบอาหารทุกชนิด
นมข้นจืด
นมข้นจืดส่วนใหญ่จะถูกบรรจุมาในรูปแบบกระป๋อง ซึ่งในกรณีที่ใช้ไม่หมด เราสามารถเก็บส่วนที่เหลือไว้ในภาชนะอื่น ที่แห้งและสะอาดได้ เช่น ถุงพลาสติก แล้วเก็บแช่ในตู้เย็นได้ แต่ก็มีนมข้นจืดบางยี่ห้อ เช่น
นมข้นแปลงไขมันไม่หวานตราฟอลคอน โพรเฟสชัลแนล
ที่นอกจากจะช่วยเติมเต็มรสชาติทุกเมนูอาหารให้มีความเข้มข้น และกลมกล่อมมากยิ่งขึ้นแล้ว ยังมีบรรจุภัณฑ์แบบกล่อง 1 ลิตรให้เลือกใช้ ซึ่งใช้สะดวก และจัดเก็บง่าย หากใช้ไม่หมดก็สามารถเก็บเข้าตู้เย็นได้เลยทั้งกล่อง และอยู่ได้นานอีกถึง 3 สัปดาห์หลังเปิดใช้
นมยูเอชที
นมยูเอชทีเป็นนมที่ผ่านการฆ่าเชื้อด้วยอุณหภูมิสูงมากในระยะเวลาสั้น จึงเป็นนมที่สามารถเก็บไว้ได้นาน อย่างเช่น นมยูเอชที(สำหรับตีฟอง) ตราฟอลคอน โพรเฟสชัลแนล นวัตกรรมใหม่ ที่เป็นนมยูเอชที สามารถใช้ตีฟองนมได้ ตีฟองขึ้นง่ายและสามารถอยู่ตัวได้นาน ที่สำคัญคือด้วยความที่เป็นนมยูเอชทีทำให้สามารถเก็บรักษาได้นานถึง 8 เดือนโดยไม่ต้องแช่เย็น เมื่อเปิดแล้วใช้ไม่หมด ก็สามารถเก็บรักษาไว้ในตู้เย็นได้อีก
เนย
เนยสดควรเก็บรักษาในตู้เย็นช่องธรรมดา โดยต้องระวังเรื่องภาชนะที่ใส่ ฝาต้องปิดสนิทเพื่อป้องกันกลิ่นต่างๆ เข้าไปรบกวน ส่วนเนยขาวและเนยเทียมหรือมาการีน สามารถเก็บรักษาได้ที่อุณหภูมิห้องโดยไม่ต้องแช่เย็น และเนยทุกชนิดมีอายุการเก็บนานประมาณ 1 ปี
ควรจะนำเนื้อสัตว์ที่ซื้อมาแบ่งเก็บเป็นส่วนๆ ตามการใช้งานแต่ละครั้ง แล้วจึงนำไปแช่เย็นเก็บไว้ ซึ่งทั้งนี้ไม่ควรพอกเนื้อสัตว์ด้วยเกลือ เพราะจะทำให้เนื้อบูดเน่า แต่เกลือจะนำมาใช้โรยลงเนื้อสัตว์บดที่แช่แข็งแล้ว เพื่อทำให้ละลายเร็วขึ้น
การเก็บรักษาผักสดให้คงอยู่ในสภาพที่ดี
ไม่ควรเก็บผักและผลไม้ให้อยู่ด้วยกัน ควรแยกกันเป็นสัดเป็นส่วน
โดยแยกใส่ถุงพลาสติกที่เจาะรูไว้ ให้อากาศถ่ายเทได้
และระวังว่าไม่ควรล้างก่อนเก็บ
แต่ควรจะล้างเมื่อจะนำมาทำอาหารเท่านั้น
ของแห้งที่ว่านี้ เช่น พวกเครื่องเทศ สมุนไพร และขึ้นชื่อว่าของแห้ง การเก็บรักษาก็ต้องให้มั่นใจว่าที่เก็บนั้นแห้งและโปร่ง เพื่อป้องกันการเกิดเชื้อรา หรืออาจเก็บในถุงพลาสติก ขวดโหล หรือกล่องที่มีการปิดฝาสนิท
ควรจะเก็บในภาชนะที่แห้งสนิท และมีฝาปิดมิดชิด ในกรณีสีผสมอาหารและสารให้กลิ่นอาหาร ควรเก็บไว้ในภาชนะทึบ เช่น ขวดแก้วทึบแสง และปิดมิดชิด จะช่วยให้สีและกลิ่นอยู่ได้นานไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
นอกจากนี้แล้วการจัดระเบียบที่เก็บของ หรือตู้เย็นก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม การเก็บอาหารควรใส่ลงกล่อง หรือถุงสุญญากาศ ไม่ควรเก็บเยอะจนอัดแน่นเกินไป และข้อสำคัญคืออย่าเสียดาย ถ้าของเสียแล้วควรนำออกมาทิ้ง เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคต่อไป
